ความฝัน
สัญญา หน้ากาก
เวลาสงัด
เสียงจักจั่นร้องระงมไปทั่วบริเวณข้าพเจ้าตื่นขึ้นมาเพราะฝันร้าย มาปลุกฝันถึงใครสักคนที่เคยกอดไว้ ฝันถึงใครคนนั้นที่เคยสัญญาว่าจะอยู่ข้างๆ
กันตลอดไปไม่ว่าจะเจอสิ่งใด ร้ายหรือดีเข้ามาในชีวิต เมื่อคว้าไปเจอเพียงหมอนข้างและตุ๊กตา
1 ตัว ข้าพเจ้าสะอื้นไห้เพียงลำพัง เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น
ไม่จำเป็นแล้วนาฬิกาเอ๋ย ข้าพเจ้าตื่นเองได้ แต่ข้าพเจ้าไม่ลุกจากที่นอนเพราะความหนาวจากนอกหน้าต่าง
เพราะความอบอุ่นจากผ้าห่ม เพราะความสดชื่นจากต้นไม้และเสียงเพลงยามเช้าของวิทยุจากคนข้างบ้าน
ระหว่างนั่งเรือออกจากเกาะนางยวน |
ข้าพเจ้าลุกขึ้นเช็ดน้ำตายังนึกถึงฝัน ยังไม่ลืม ไม่เลือนจากความรู้สึก กลิ่นหอมของกาแฟในแก้วเซรามิค
กลิ่นหอมของแผ่นดินปกคลุมด้วยยอดหญ้าและหยาดน้ำค้าง ข้าพเจ้าเจอคนนั้น
เจอผู้คนร่วมสังคม ร่วมงาน ต่างยิ้ม ต่างหัวเราะข้าพเจ้า บ้างขมขื่น บ้างสดใส
บ้างกลบเกลื่อน ใครกันที่สวดมนต์ในยามเช้าต่อเบื้องหน้าพระพุทธรูป ใครบ้างที่ตั้งปฏิญาณว่าจะพูดจริงๆ
ตลอดทั้งวันใครกันที่จะยึดถือความยุติธรรม
ข้าพเจ้าหยิบหน้ากากมาสวม ข้าพเจ้าหยิบหมวกผ้าคลุมมาปกปิด
ความหนาวจากลมที่กำลังพัดเอื่อยๆ มองหันไปมา เพื่อนข้าพเจ้าอยู่ตรงนั้น ข้าพเจ้าวิ่งไปหาเขา
ข้าพเจ้ากำลังใส่หน้ากากให้กัน ทุกคน
กวี สันติภาพ