หน้าเว็บ

แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ข้าพเจ้า แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ข้าพเจ้า แสดงบทความทั้งหมด

วันอังคารที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ความรักของข้าพเจ้าคือ ?I want that one be you


ความรักของข้าพเจ้าคือ ?

I want that one be you

    ความรักของข้าพเจ้าคืออะไร ความรักนั้นอาจจะมีค่าดั่งอัญมณีทั้งเก้า อาจจะสูงส่งหรือแข็งแรงดั่งภูผาสูง อาจจะดื่มด่ำหวานล้ำดั่งน้ำผึ้งในวันพระจันทร์แรม อาจจะสว่างไสวดั่งคบไฟเมื่อยามราตรีที่มืดมิด อาจจะอิ่มเอมเมื่อคราที่ลิ้มรสอาหารอันรสเลิศ อาจจะสดชื่นดั่งน้ำค้างตอนย่ำรุ่ง ในช่วงชีวิตที่ผ่านมาของข้าพเจ้านั้นข้าพเจ้าไม่เคยรู้เลยว่าความรักระหว่างหนุ่มสาวเป็นอย่างไรเพียงแค่ลุ่มหลงในบางเวลา กระชุ่มกระชวยหัวใจในยามที่แห้งแล้ง เพียงแค่ระเริงในวันที่หัวใจเกือบหยุดเต้น ข้าพเจ้ารู้จักแต่ความรักที่ให้กับตัวเองและไม่เคยคิดว่าจะคาดหวังสิ่งใดจากความรัก  และอะไรคือความรักกันแน่....

คนหนึ่งคนที่เดินทางบนเส้นทางสายชีวิตอย่างโดดเดี่ยวตลอดมาหวังว่าใครคนนั้นที่บางสิ่งได้ประทานมาให้ผูกพันคงจะมีบางสักคนไม่ว่าเขาจะเป็นใคร ข้าพเจ้าสุขใจเมื่อเห็นคนอื่นมีความรัก ข้าพเจ้าเศร้าใจเมื่อเห็นคนอื่นเสียใจจากความรัก ข้าพเจ้าไม่รู้ว่าความรู้สึกที่ข้าพเจ้าเป็นอยู่คืออะไรกัน...
 
 
 

    ความรักของข้าพเจ้าเป็นอย่างไรไม่รู้ข้าพเจ้ารู้เพียงแต่ว่า ยางของยาง น้ำของน้ำ ความรักเป็นทั้งสิ่งเริ่มแรกและสิ่งสุดท้าย เมื่อยามรักข้าพเจ้ามีทุกอย่างตามแต่ใจปรารถนา เมื่อปราศจากความรักข้าพเจ้าก็ไม่มีสิ่งใดเหลือเลย ความรักเป็นทั้งศรัทธาทั้งหลาย คือความหวังของทุกสิ่ง ความรักเป็นเสมือนพิภพ คือทุกอย่างที่เกิดจากโลกแล้วก็กลับไปสู่โลก ความรักคืออะไร พูดได้ยากบอกออกมาเป็นคำพูดไม่ได้ ยากนักที่ผู้มีรักจะรู้สึกตัว

 พลังแห่งรักเป็นของขวัญอันมีค่าที่บางสิ่งบางอย่างประทานให้แก่มนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นการรักตัวเอง รักคนอื่น รักสิ่งของ รักอะไรก็ตาม เพราะความรักสถิตอยู่ในดวงจิตเท่านั้น ความรักเกิดจากความรู้สึกนอกเหนือจากความเข้าใจ หาใช่ร่างกายไม่ มนุษย์ไม่อาจทำความรักสุกงอมได้ จนกระทั่งหลังจากผ่านความเศร้า ความพลัดพราก ความอดทน ความขมขื่นและความทุกข์ยากอันแสนทรมานและสิ่งเหล่านั้นจะเป็นการตีค่าความรักของมนุษย์ซึ่งจะมีให้กับฝ่ายตรงข้าม

    ความรักของข้าพเจ้าจะเปรียบด้วยดอกไม้ใด ๆ ไม่ได้ เพราะข้าพเจ้าได้ยินคำกล่าวว่า ความรักที่แท้จริงไม่ใช่สีแดงดั่งสีพฤกษาใด ๆ ความรักที่เปรียบดั่งดอกไม้นั้นย่อมไม่จีรังเหมือนดั่งดอกไม้ที่มีวันร่วงโรยได้ตลอดเวลาเมื่อโดนสิ่งใดกระทบกระทั่ง  ความรักที่แท้จริงนั้นย่อมมีสีดั่งสีนิล เหมือนดังสีพระศอพระศิวะ เมื่อทรงดื่มยาพิษร้ายเพื่อรักษาโลกให้พ้นภัย ความรักแท้จริงต้องสามารถต้านทานพิษแห่งชีวิต และต้องเต็มใจยอมลิ้มรสที่ขมขื่นที่สุดนี้ ความรักย่อมเต็มใจเลือกสีนิล คือความขมขื่นไว้ดีกว่าจะเลือกเอาสีอื่นที่มุ่งแต่จะหาความบันเทิงสุขอย่างเดียวสุดท้ายแล้วความรักนั้นคืออะไร....

วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ความรักและการแสวงหาความรัก


ความรักและการแสวงหาความรัก
ข้าพเจ้ามองย้อนกลับไปเรื่องเกี่ยวกับความรักว่ามันเกิดขึ้นเมื่อไร ข้าพเจ้ารู้สึกถึงความรักจริงๆ เมื่อไร  ข้าพเจ้าคิดว่า   บางครั้งก็แปลกเวลาข้าพเจ้าวิ่งตามบางครั้งมันก็มักจะวิ่งหนี  แต่พอข้าพเจ้าเหนื่อยและท้อไม่อยากจะตามมัน เจ้าความรักนี่กลับมาหยุดอยู่ใกล้ๆ  หรือข้าพเจ้าควรเปรียบความรักได้กับเงาของมนุษย์   ที่ไม่อาจแยกออกจากกันได้ ตราบที่ข้าพเจ้ายังมีชีวิตคงยากที่จะหลีกเลี่ยงที่จะมีรัก หลายคนคงพยายามที่จะให้คำจำกัดความกับความรัก แต่แท้จริงแล้วคงยากที่จะจำกัดขอบเขตของความรัก เพราะคงไม่สามารถใช้ข้อกำหนดอะไรมาเป็นตัวกีดกั้นความรัก ไม่ว่าจะเป็น เชื้อชาติ ศาสนา อายุ หรือ แม้แต่เพศก็ตาม ถ้ามีคำถามว่าเมื่อไรความรักจะเกิดขึ้นกับข้าพเจ้า ข้าพเจ้าคิดว่าคงยากที่จะตอบ แต่ข้าพเจ้าเชื่อว่ามนุษย์จะทราบด้วยความรู้สึก สัญชาติญาณเองว่าเมื่อไรความรักกำลังเข้ามาเยี่ยมเยือน



 ในชีวิตคนข้าพเจ้านั้นคงไม่บ่อยครั้งนักที่จะได้สัมผัสความรู้สึก ว่าได้รักใครหรือกำลังถูกรักโดยใครบางคน อย่างไรก็ตามคนทั่วไปต่างมุ่งหวังที่จะอยู่ในอารมณ์ ที่จะรักใครมากกว่าที่จะถูกรักโดยใคร ที่เป็นเช่นนี้เป็นเพราะว่ามนุษย์ข้าพเจ้าเคยชินกับการเลือกมากกว่าที่จะถูกเลือก  แต่ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์ใดก็ตามกล่าวได้ว่าเป็นความรู้สึกที่ดีทั้งสิ้น มีมนุษย์หลายคนที่เกิดมาโดยไม่รู้จักหรือสัมผัสกับความรัก หรือบางคนไม่แม้แต่ที่จะรักใคร อารมณ์ความรักเป็นสิ่งที่ละเอียดอ่อนมากไม่สามารถสอนกันได้ แต่สามารถสื่อสารกันได้ด้วยความรู้สึกล้วนๆ ดังนั้นเมื่อใดความรักได้ผ่านเข้ามาเยี่ยมเยือนและได้จากข้าพเจ้าไป จงอย่าเสียใจ เพราะนั่นทำมันให้ท่านได้สัมผัสความวิเศษสุด ในความเป็นมนุษย์อย่างสมบูรณ์แล้ว   อย่างไรก็ตามอย่ากลัวที่จะรักอีก และข้าพเจ้าจะไม่พยายามสร้างขอบเขตและข้อจำกัดในรัก เพราะมิฉะนั้นข้าพเจ้าอาจจะไม่พบและไม่เจอะเจอมันอีกเลย หากแต่การจากลาของใครบางคนทำให้ข้าพเจ้าอ่อนแอ ข้าพเจ้าพยายามเข้าใจใหม่เสียว่า ข้าพเจ้าอ่อนแอตั้งแต่มีเขาเคียงข้างกายแล้ว แค่วันนี้ข้าพเจ้าไม่มีใครให้พักพิง
ในเมื่อข้าพเจ้าทิ้งเขาหรือเขาทิ้งข้าพเจ้าไปแล้ว ไม่แปลกหากน้ำตาที่ไหลริน ทำนบน้ำตาที่พังทลาย กับหัวใจที่สลายจนสิ้นไป เพราะใครบางคนที่ทิ้งไปในวันนี้ ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกสูญสิ้นทุกอย่างไป เป็นเพราะข้าพเจ้าได้นำทุกอย่างให้เขาไปต่างหากล่ะ ในตอนนี้ข้าพเจ้าคงทำได้เพียงนั่งร้องไห้ จนคิดว่า น้ำตามีไม่เพียงพอให้ไหลรินจนหมดใจนอกจากน้ำตาที่มันจะกัดเซาะบาดแผลในใจของข้าพเจ้าให้ลุกลามแล้ว มันยังเป็นน้ำกรดราดรดลงไปในใจคนรอบข้างที่รักข้าพเจ้าอีกด้วย ไม่ใช่เพียงข้าพเจ้าคนเดียวที่เสียใจและเจ็บปวด ยังมีอีกคนที่เจ็บปวดไปพร้อมกับข้าพเจ้า   จงลืมตาขึ้นสิข้าพเจ้าบอกตัวเอง....... ข้าพเจ้าได้มองเห็น "คนที่รักข้าพเจ้า"  ที่ยืนเฝ้ามองข้าพเจ้าอยู่ห่างๆ อย่างห่วงใย นอกห้องออกไป นอกห้องที่ข้าพเจ้าขังตัวเองไว้เนิ่นนาน เขาพร้อมจะซับน้ำตาข้าพเจ้าทันทีที่ข้าพเจ้าเอ่ยปาก คนที่ยอมรับการตัดสินใจของคุณอย่างเจ็บปวด คนที่ใช้สองมือรองรับน้ำตาอย่างอาทร และพร้อมใช้ไหล่กว้างซับผ่าน.......ให้ไหลลึกลงไปสู่หัวใจ แต่ "คนที่ทำร้ายข้าพเจ้า" กำลังปล่อยมือช้าๆ และก้าวออกห่างคุณอยู่เลยๆ คนที่กำลังก้าวข้ามน้ำตาข้าพเจ้าไปอย่างรังเกียจ คนที่เห็นน้ำตาข้าพเจ้าเป็นเพียงหยาดน้ำ คนที่ไม่รับรู้เสียงสะอื้นที่ข้าพเจ้าร่ำไห้
 ข้าพเจ้าถือได้ว่าขาดแคลนความรู้สึกนั้นมานานแสนนาน  น้อยคนที่จะรักข้าพเจ้าจริง น้อยคนที่จะมองเห็นความรักของข้าพเจ้า  ไม่ว่าคนเหล่านั้นที่เข้ามาพัวพันกับข้าพเจ้าในสถานะใดทุกคนล้วนคาดหวังความรักของข้าพเจ้าทั้งสิ้น  ข้าพเจ้าพึ่งมาคิดได้ความรักนั้นไม่ใช่การเติมเต็มอย่างเดียวเปรียบเสมือนดินเหนียวก้อนหนึ่งที่ทุกคนมองให้มันสามารถปั้นแต่งรูปร่างได้ดังใจ  เมื่อเอาน้ำผสมเข้าไปมากดินเหนียวนั้นก็จะเละ  แต่ถ้าไม่เติมน้ำเลยดินก็จะแข็ง นั้นคือสัจธรรมที่สอนข้าพเจ้าว่าไม่มีอะไรเป็นความพอดีทุกสิ่งในโลกนี้ไม่มีสิ่งใดเป็นของข้าพเจ้าตายตัว ทุกสิ่งในโลกนี้ล้วนจับต้องไม่ได้ ไม่มีสิ่งใดที่เป็นของข้าพเจ้าจริงๆ สักอย่างแม้แต่ความรักที่ข้าพเจ้ามองเห็นของพี่คนหนึ่งที่เขาเอาใจใส่ดูแลข้าพเจ้าดีมากในสถานะที่ข้าพเจ้าเป็นน้องสาวของเขา แต่ความรักที่เขามีให้นั้นก็เป็นดินเหนียวที่เติมน้ำมากเกินจนกลายเป็นตม และตมก็จะเลอะติดขาเวลาข้าพเจ้าเดินเหยียบ และดินเหนียวก้อนนั้นก็จะไม่สามารถที่จะปั้นแต่งรูปร่างเป็นอะไรได้เลย ข้าพเจ้าจำใจให้ดินเหนียวก้อนนั้นเป็นก้อนดินที่มีค่ามากแต่เป็นก้อนดินที่ข้าพเจ้าจับต้องไม่ได้  ข้าพเจ้าปล่อยเขาเองเวลาที่ข้าพเจ้ากำดินเหนียวที่กลายเป็นโคลนด้วยมือเปล่าข้าพเจ้าเจอแต่ความเปื้อนที่ยังติดมือโดยที่ข้าพเจ้ามองไม่เห็นหัวใจตัวเองว่าเจ็บปวดกับสถานะของ
ดินเหนียวก้อนนั้นแค่ไหน ข้าพเจ้าได้แต่มองอยู่ห่างๆ อย่างมีความหวังว่าสักวันหนึ่งดินเหนียวก้อนนั้นจะเป็นรูปร่างเป็นแจกัน แก้วน้ำ หรือสิ่งใดๆ ที่มีค่ามากกว่าดินเหนียว ข้าพเจ้าจะยินดีที่เขาทำให้ความรักที่มีให้แก่ข้าพเจ้าเป็นรูปร่างและเป็นนามธรรม  สักวันข้าพเจ้าต้องเจอกัน  ข้าพเจ้าคงต้องเลือกแล้วระหว่าง หัวใจที่ยังมีอยู่ กับ หัวใจที่ไม่มีข้าพเจ้า  เคยบ้างไหม เคยรู้ตัวบ้างหรือเปล่าข้าพเจ้าสมน้ำหน้าตัวเองให้สติกับตัวเอง บางครั้งเรื่องบางเรื่องก็ต้องให้คนอื่นบอก...ถึงจะเข้าใจ  นี้ก็อย่างที่เขาบอกว่าทุกอย่างมีข้อจำกัด คำว่ารักก็มีข้อจำกัดในความหมายของตัวมันเอง

วันพฤหัสบดีที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

บางครั้ง


บางครั้ง
บางครั้งการที่ข้าพเจ้าเหนื่อยมีข้อดีเพราะทำให้ข้าพเจ้ารู้ว่าข้าพเจ้าทำดีที่สุด 
บางครั้งเมื่อข้าพเจ้าทุกข์ก็มีข้อดีทำให้ข้าพเจ้ารู้ว่าเมื่อมีทุกข์เดี๋ยวต้องมีสุข 

พิพิธภัณฑ๋ สวยงามมากๆ
กวี สันติภาพ

บางครั้งในเวลาที่ข้าพเจ้าท้อแท้ก็มีข้อดีทำให้ข้าพเจ้ารู้ว่า
ข้าพเจ้ายังมีร่างกายและจิตใจ 
บางครั้งในเวลาที่ข้าพเจ้าร้องก็มีข้อดีทำให้
ข้าพเจ้าได้ล้างสิ่งสกปรกออกมา
บางครั้งในวันที่ข้าพเจ้าไม่ใครเข้ามาก็มีข้อดีที่ทำให้
ข้าพเจ้าได้เรียนรู้ความคิดตัวเอง
บางครั้งในวันที่ข้าพเจ้าพยายามทำบ้างสิ่งแต่ทุกคนมองว่าไม่ดี
แต่มันก็ดีตรงที่ข้าพเจ้าได้รู้จุดบกพร่องนั้น
บ้างครั้งในวันที่ข้าพเจ้านอนไม่หลับทำให้ข้าพเจ้ารู้ว่าการได้ลืมตาในเวลากลางคืนนั้นทำให้ข้าพเจ้าได้รู้จักความสงบ
บางครั้งในวันที่มีคนดูถูกก็มีข้อดีที่อย่างน้อยคนพวกนั้น
เฝ้ามองข้าพเจ้าตลอดเวลา
บางครั้งในวันที่ข้าพเจ้าได้ยินเสียงคนนินทาก็มีข้อดี
ตรงที่ข้าพเจ้าได้รู้จิตใจของคนที่ต่อหน้าดีกับข้าพเจ้าแต่ลับหลังคิดร้ายเสมอ

วันพุธที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ความจริง


ความจริง
การจากไปของใครบางคน คือการจากลา จากการรอคอย
การได้รู้ความจริงไม่เจ็บปวดเท่า
การที่ถูกหลอกมานานนับสิบปี
การกระทำที่ผ่านมา ไม่เท่ากับการบอกลาแค่หนึ่งนาที
การร้องไห้ให้กับความทุกข์ ไม่ใช่ทางออกของทุกสิ่ง
การได้อยู่คนเดียวยังดีเสียกว่าคิดว่าจะได้อยู่กับอีกคน


น้ำตกทุ่งกระทิง

การที่รับรู้ถึงความเหนื่อย ย่อมทำให้ข้าพเจ้านอนหลับแต่ตื่นขึ้นมา
เข้มแข็งอีกครั้ง การเจอกับอุปสรรคมากมายในชีวิต ทำให้ข้าพเจ้าได้
เรียนรู้ที่จะมีลมหายใจ การที่ได้มีชีวิต ก็ยังดีกว่าหลายคนที่กำลังคิด
สั้นทำลายชีวิต การสู้จนสุดกำลังแล้วแพ้ก็ยังดีกว่าไม่ได้สู้อะไรเลย

กวี สันติภาพ

วันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

บางสิ่ง


วันนี้ได้เรียนรู้ว่าบางสิ่งที่เราหวังไว้แม้ไม่มีวันเป็นจริงแต่เราก็มีความ

สุขกับความหวังนั้น บางอย่างเราไม่เคยหวังว่ามันจะเกิดแต่เราได้เจอ

มัน เราก็อาจหาความสุขนั้นได้เช่นกัน การบอกสิ่งที่เราคิดหรือสิ่งที่

เรากำลังแสดงมันอาจจะเป็นจริงหรือตรงกันข้าม แต่เราก็เลือกทำ

เลือกปฏิบัติมันและต้องพร้อมยอมรับสิ่งที่กำลังจะเกิดมาคงไม่มีใคร

อยากผิดพลาดและคงไม่มีใครอยากเจ็บซ้ำแล้วซ้ำอีก แต่ก็ยอมรับสิ่ง

เกิดนั้นให้ได้เพราะยังเป็นคน เป็นมนุษย์ที่มีลมหายใจอยู่
มุมหนึ่งของเกาะเต่า

กวั  สันติภาพ

การเดินทาง

เวลาพลบค่ำริมแม่น้ำตาปี
การเดินทาง
วันหนึ่งบนเส้นทางที่ไม่รู้ว่าทำเพื่อใคร
ตัวข้าพเจ้าเองกำลังวิ่งบ้าง
เดินบ้างโดยที่ไม่มีศาลาริมทางคอยพักใจ
ข้าพเจ้าเจอรถยนต์ เจอผู้คนมากมายเดินผ่านไปมา 
บางคนก็หยุดตรงหน้า
ข้างๆ หันมา ยิ้ม มอง ด่า ว่า ชมเชย 
ข้าพเจ้าเหนื่อยแล้วนั่งบนถนนรถคันใหญ่
ตรงหน้าแล่นเข้ามาชน
ข้าพเจ้าเจ็บปวด ร้องไห้ บาดแผลทั่วตัวมีคนมาพยุงอุ้ม
ประคอง เช็ดน้ำตา เมื่อลุกขึ้นยืนได้ข้าพเจ้าก็เดินต่อไป 
ข้าพเจ้าไม่เจอคนที่เคยช่วยเหลือ
ข้าพเจ้าเดินไปเรื่อยๆ เจอฝน

เจอแดด เจอลม เจอพายุ แต่ข้าพเจ้ายังต้องเดินไป

From...กวี  สันติภาพ